ความผิดมูลฐานของการฟอกเงินทั้ง 29 มูลฐาน
กลุ่มธุรกิจที่มีหน้าที่รายงานธุรกรรมและตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า
สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพที่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายฟอกเงิน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจดังต่อไปนี้
ที่มา : เวปไซต์สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ธุรกรรมที่ต้องรายงานต่อสำนักงาน ปปง.
สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา 16 ต้องจัดให้ลูกค้าแสดงตนก่อนหรือขณะทำธุรกรรม
สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา 16 ต้อง ตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าทุกรายจนกว่าจะยุติความสัมพันธ์
ดังที่กล่าวมาแล้ว จะเห็นได้ว่า การปฏิบัติตามกฎหมายฟอกเงินสำหรับภาคธุรกิจที่กฎหมายกำหนดนั้น มีขั้นตอนการปฏิบัติและกระบวนการที่ซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบุคลากรหลายส่วนงาน การกำกับตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายฟอกเงินภายในองค์กร จึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและความเข้าใจในวิธีปฏิบัติ รวมถึงเข้าใจบทบาทของบุคลากรในแต่ละระดับตั้งแต่ BUSINESS UNITS ซึ่งเป็น First Line of Defense จนถึงระดับ INTERNAL AUDIT ซึ่งเป็น Third Line of Defense
บริษัทซึ่งมีทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาในการปฏิบัติตามกฎหมายฟอกเงินมากว่า 20 ปี จึงขอเสนอบริการ OUTSOURCING AML/CTF/FP INTERNAL CONTROL สำหรับกลุ่มธุรกิจที่เป็น ผู้มีหน้าที่รายงานธุรกรรม เพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายฟอกเงินในการควบคุมภายในด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง สอดคล้องกับประกาศสำนักงาน ปปง. เรื่อง การกำหนดและดำเนินการตามนโยบายและระเบียบวิธีการเกี่ยวกับการควบคุมภายในของสถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา 16 พ.ศ. 2564
OUTSOURCING AML/CTPF INTERNAL CONTROL
ดำเนินงานโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ขั้นตอนการดำเนินงาน
ขั้นตอนที่หนึ่ง : การกำหนดผู้ประสานงานในการการควบคุมภายใน (การตรวจสอบ) ด้าน AML/CTF/FP
จัดให้มีการประชุมกันกับคณะทำงานของบริษัท และ ทีมผู้ตรวจสอบ โดยกำหนดตัวบุคลากรที่จะทำหน้าที่ในการประสานงาน ซึ่งบุคลากรดังกล่าวจะเป็นผู้รับรายการเอกสารที่ผู้ตรวจสอบขอให้นำส่ง เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น
ขั้นตอนที่สอง : ผู้ตรวจสอบดำเนินการตรวจสอบงานด้านเอกสาร (Offsite)
เมื่อได้รับบรรดาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย ทีมผู้ตรวจสอบ จะดำเนินการสอบทานบรรดาเอกสารทั้งหลาย กับข้อปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (กฎหมาย ปปง.) และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (กฎหมาย ปกอ.)
โดยทีมผู้ตรวจจะดำเนินการสอบทานตาม Audit Program ที่จัดทำขึ้น ซึ่งอ้างอิงจาก พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 (พรบ. ปปง.) และที่แก้ไขเพิ่มเติม, พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559 (พรบ. ปกอ.) และที่แก้ไขเพิ่มเติม, กฎกระทรวง, ระเบียบ, ประกาศคณะกรรมการ ปปง. และ ประกาศสำนักงาน ปปง. ที่เกี่ยวข้อง
เมื่อสอบทานครบถ้วนแล้ว ทีมผู้ตรวจสอบ จะรายงานผลการตรวจสอบด้านเอกสารเบื้องต้น และประสานงานกับคณะทำงานของบริษัท เพื่อแจ้งแผนการเข้าตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ณ สถานประกอบการ/สำนักงานของบริษัท โดยในการประสานงานขั้นตอนนี้ ทีมผู้ตรวจจะขอนัดหมายและประสานดำเนินการดังนี้
ขั้นตอนที่สาม : การเข้าตรวจสอบการปฏิบัติ ณ สถานประกอบการ/สำนักงาน (Onsite)
ทีมผู้ตรวจสอบ จะเข้าตรวจสอบการปฏิบัติงานตามกฎหมาย ปปง. และ กฎหมาย ปกอ. ของบริษัท ณ สถานประกอบการหรือสำนักงาน ที่ซึ่งบรรดาบุคลากร เอกสาร ข้อมูล รวบรวมอยู่ โดยทีมผู้ตรวจจะดำเนินการดังต่อไปนี้
นัดหมายเพื่อเข้าตรวจ โดยบริษัทกำหนดตัวบุคลากรที่รับผิดชอบในงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย ปปง. และ กฎหมาย ปกอ. ในส่วนงาน(อย่างน้อย) ได้แก่
เมื่อเข้าตรวจในแต่ละส่วนงาน ทีมผู้ตรวจสอบจะสอบถามข้อเท็จจริง รายละเอียดการปฏิบัติงาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างอิงจากนโยบายหรือวิธีปฏิบัติ/แนวปฏิบัติ ที่ส่วนงานนั้นๆมีหน้าที่ รับผิดชอบหรือปฏิบัติตาม รวมถึงอ้างอิงจากบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ปปง. และ ปกอ. ที่เกี่ยวข้องกับส่วนงานนั้นๆ
ในการตรวจสอบการปฏิบัติของส่วนงานต่างๆ ทีมผู้ตรวจสอบอาจขอทราบข้อมูล สถิติ ตัวอย่างเอกสาร ดูระบบงาน เพิ่มเติมไปจากเอกสารที่เคยได้รับในขั้นตอนที่หนึ่งและขั้นตอนที่สอง เพื่อมั่นใจว่า ส่วนงานที่ตรวจสอบนั้น ปฏิบัติงานจนได้ผลลัพธ์ตามนโยบาย แนวทางปฏิบัติ หรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างแท้จริง
เมื่อตรวจสอบครบถ้วนตาม Audit Program ทีมผู้ตรวจ จะเร่งรวบรวม วิเคราะห์ และจัดทำรายงานผลการควบคุมภายใน(การตรวจสอบ) ต่อไป
ขั้นตอนที่สี่ : การจัดทำรายงานผลการควบคุมภายใน (การตรวจสอบ)
เมื่อได้รับข้อมูล ข้อเท็จจริง และเอกสารเพิ่มเติมต่างๆ ที่ได้ในขั้นตอนการตรวจสอบทั้งในระดับ Offsite และOnsite ครบถ้วนแล้ว ทีมผู้ตรวจสอบ จะได้จัดทำรายงานผลการตรวจสอบภายในด้านการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ซึ่งรายงานการการควบคุมภายใน (การตรวจสอบ)ดังกล่าว จะประกอบด้วย
ขั้นตอนที่ห้า : การประชุมเสนอผลการควบคุมภายใน(การตรวจสอบ) กับผู้เกี่ยวข้อง
เมื่อทีมผู้ตรวจสอบ ได้นำส่งรายงานการควบคุมภายใน(การตรวจสอบ) ให้แก่บริษัทแล้ว ทีมผู้ตรวจจะนัดหมายประชุมกับผู้บริหารระดับสูงขององค์กร บุคลากรที่เกี่ยวข้องในส่วนงาน/ฝ่าย/แผนก ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย ปปง.และกฎหมาย ปกอ. รวมถึงคณะทำงานในโครงการนี้ เพื่อนำเสนอรายงานผลการตรวจสอบภายใน ซึ่งจะทำให้ผู้บริหารรับทราบและเข้าใจในความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามผลการตรวจสอบภาย รวมถึงเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานในส่วนงาน/ฝ่าย/แผนก ที่เกี่ยวข้องสามารถซักถามหรือขอคำแนะนำในการปฏิบัติให้เป็นไปตามรายงานผลการตรวจสอบภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์